แนะนำหนังสือ ดีดี..
น้อมรำลึก ในหลวง ร.9..เผื่อคนรุ่นหลัง
ในหลวงทรงทำอะไร? ..ทรงทำเพื่อใคร? ..ทรงทำอย่างไร?
น้อมรำลึก ในหลวง ร.9..เผื่อคนรุ่นหลัง
ในหลวงทรงทำอะไร? ..ทรงทำเพื่อใคร? ..ทรงทำอย่างไร?
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้มีการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ทรงงานร่วมกับองคมนตรี
ถือว่าเป็นหนังสือที่มีคุณค่ายิ่งเสมือนบันทึกประวัติศาสตร์แห่งความเพียร และความมุ่งมั่นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จึงเกิดความคิดที่จะจัดทำหนังสือเล่มนี้ขึ้น
ซึ่งคงไว้ด้วยคุณค่าเรื่องราวขณะทรงงานกับองคมนตรี
โดยจัดพิมพ์เสมอต้นฉบับทุกประการ เพื่อจำหน่ายในราคาย่อมเยา เล่มละ 199 บาท รายได้ทั้งหมดมอบให้มูลนิธิอานันทมหิดล
และหวังว่าหนังสือ”พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี”
จะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อ่านและเป็นขวัญกำลังใจในการมุ่งมั่นสร้างคุณงามความดีทั้งแก่ตนเอง
ครอบครัวและประเทศชาติ โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแบบอย่างสืบไป
“หนังสือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี
ถือเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์
ที่กล่าวถึงที่มาของคณะองคมนตรีที่เริ่มตั้งแต่รัชกาลที่ 5 จนถึงบทบาทหน้าที่ขององคมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
รวมถึงประวัติองคมนตรีทั้ง 19 ท่านและได้อัญเชิญพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่คณะองคมนตรีถึงบทบาทหน้าที่ในการทำงาน
มาจัดพิมพ์เป็นครั้งแรกอีกด้วย” นายสักฯ กล่าว
ภายในงานมีการจัดเสวนาจากผู้ที่ได้อ่านหนังสือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี
แล้ว 4 คนคือ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล
ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ศ.ดร. ปาริชาต สถาปิตานนท์
อาจารย์ประจำภาควิชาประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณวนิษา เรซ ผู้บริหารโรงเรียนวนิษา
โดยแต่ละคนได้พูดได้อย่างน่าสนใจ
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ได้กล่าวถึงความประทับใจ
โดยบอกว่า
จากที่ตนได้ทำงานสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริ
(กปร.) ร่วมกับคณะท่านองคมนตรีหลายท่าน จึงถือเป็นบุญของชาว กปร.ที่ได้ทำงานกับฟ้า
คือพระองค์ท่าน และกับดิน คือประชาชน
พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อประชาชนมากมายล้นพ้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงงานโดยมีหลัก 3 อย่างคือ ความเข้าใจ, เข้าถึง และจึงพัฒนา ความเข้าใจในสิ่งที่เรียกว่า “ภูมิสังคม”
เข้าใจภูมิ ประเทศทั้งหมด
เข้าใจสังคมคือ ประชาชน ส่วนการเข้าถึง จะเห็นว่า
พระองค์ทรงเข้าถึงประชาชน ทรงซักถามข้อมูลต่างๆ จากประชาชนรอบด้าน จากนั้นทรงนำข้อมูลเหล่านั้นมาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพัฒนาจนพระราชทานเป็นโครงการพระราชดำริ
“หนังสือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี”เป็นหนังสือที่มีคุณค่าอย่างมาก
มีภาพประวัติศาสตร์ต่างๆและหนังสือเล่มนี้ยังได้พูดถึงบทบาทหน้าที่ของคณะองคมนตรี
ว่ามีหน้าที่อย่างไรและความประทับใจของคณะองคมนตรีที่ได้ทำงานร่วมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง
19 ท่าน ในด้านต่างๆจากองคมนตรีที่ได้ทำงานในด้านนั้นๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางทหาร
เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงฯและอีกในหลายๆเรื่อง”
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ
ยังกล่าวต่ออีกว่าเยาวชนรุ่นหลังอาจจะยังไม่ได้สัมผัสถึงการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันนี้ด้วยพระพลานามัย
แต่พระองค์ท่านยังทรงติดตามสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนอยู่ตลอดเวลา
ถ้าเยาวชนได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะได้รู้ว่าพระองค์ท่านที่ได้ทรงพระราชดำเนินไปในทุกๆที่เพื่อที่จะทรงงานให้กับประชาชน
เมื่อทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะได้สำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
ซึมซับพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ได้ทรงงาน
และตามรอยพระยุคลบาทเป็นคนดีของประเทศต่อไป
นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล
ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวถึงความประทับใจของตนเองว่า
หนังสือ”พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี” จะสามารถเข้าถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านข้อเขียนของคณะองคมนตรี
ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีความไม่เข้าใจของคนไทยในหลายๆเรื่อง
โอกาสนี้จะทำให้ประชาชนได้เข้าใจว่าองคมนตรีมีหน้าที่ในการรับใช้สนองพระเดชพระคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างไร
“คำสั้นๆ ที่ท่านประธานองคมนตรี พลเอกเปรม ติลสูลานนท์
กล่าวว่าพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้มีแค่คนเท่านั้น
แต่ทรงแพร่ไปยังสัตว์ สิ่งแวดล้อม ต่างๆอีกมากมาย
เป็นข้อความที่ประทับใจมาก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดถึงเรื่องของพระองค์เองน้อยมาก
ทรงคิดถึงแต่คนส่วนใหญ่ เรื่องเหล่านี้ควรเป็นเรื่องที่ทุกคนควรน้อมนำไปปฏิบัติ ความสุขที่ได้จากการให้เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน
ทรงคิดถึงแต่คนส่วนใหญ่ เรื่องเหล่านี้ควรเป็นเรื่องที่ทุกคนควรน้อมนำไปปฏิบัติ ความสุขที่ได้จากการให้เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน
พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างให้คนไทยทั้งหลายมีจิตสำนึกว่าการเสียสละ
การให้ที่ไม่หวังผลอะไรตอบแทน เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
ทางด้านศ.ดร. ปาริชาต สถาปิตานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาประชาสัมพันธ์ คณะนิเทสศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กล่าวในงานครั้งนี้ถึงความประทับใจว่า
หนังสือเล่มนี้มีการแปลอีกสองภาษา
เป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน
ชาวต่างชาติสามารถเข้าถึงพระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นักวิชการชาวต่างชาติจะพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรามาก
ซึ่งเราไม่สามารถหาข้อมูลต่างๆได้จากที่ไหน
ทำให้ดีใจมากที่ได้จัดทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นเพราะหนังสือเล่มนี้มีข้อมูลต่างๆ
มากมาย
“หนังสือเล่มนี้บอกไว้ว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงตรัสถึงเรื่องยอดปิรามิดหัวคว่ำ
ว่าพระองค์ท่านนั้นอยู่ล่างสุดรับใช้พี่น้องประชาชนคนไทย
เป็นสิ่งที่ผู้นำทุกภาคส่วนควรนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติอย่างมาก”
ทางด้านคุณวนิษา เรซ ผู้บริหารโรงเรียนวนิษา
ได้เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า
พระองค์ท่านทรงเป็นต้นแบบ พระองค์ท่านครบไปหมดทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ
ดนตรี หรือแม้กระทั่งด้านกีฬา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นต้นแบบของความเป็นอัจฉริยะ
เพราะเชื่อว่าคนเราไม่ว่าจะฉลาดแค่ไหนไม่สำคัญว่านำความฉลาดมาทำอะไร
เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อสังคม ต่อโลกไหม
แต่กับสิ่งที่พระองค์ท่านทำแสดงให้เห็นว่าหน้าที่ของกษัตริย์ต้องไปทุกๆ
ที่ในประเทศ ซึ่งพื้นที่ๆ
ท่านไปนั้นมีความยากลำบากมากแต่ท่านก็ยังทรงพระราชดำเนินดำเนินไป นอกจากจะห่วงใยประชาชนจริงๆแล้วนั้น
จิตใจพระองค์ท่านจะต้องเข้มแข็งมาก
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอัจฉริยะภาพมากเรื่องของแผนที่
พระองค์ท่านทรงอ่านแผนที่ 1 ต่อ 50,000ได้ในพื้นที่ที่ใช้แสงเทียนได้
การอ่านอะไรอย่างนี้จะต้องจำจนขึ้นใจแล้ว
ซึ่งหนังสือ”พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี”เล่มนี้แสดงให้เราเห็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมเหนื่อยและทำได้แบบพระองค์ท่านที่ทรงพระราชดำเนินไปในทุกๆที่โดยไม่กังวล”
หนังสือ”พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับคณะองคมนตรี”
รวบรวมบทความที่องคมนตรีทุกท่านได้บรรจงร้อยเรียงเรื่องราว
ถ่ายทอดเหตุการณ์และความรู้สึกประทับใจในการถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาท
ในมุมมองและลีลาการเรียบเรียงที่หลากหลาย
ซึ่งล้วนสะท้อนให้เห็นถึงแนวพระราชดำริที่ลึกซึ้ง
เบื้องหลังพระราชกรณียกิจและโครงการตามพระราชดำริ
น้ำพระราชหฤทัยที่ทรงรักและห่วงใยพสกนิกร
ตลอดจนพระราชจริยวัตรอันงดงามในการทรงงานเพื่อความสุขสวัสดีของพสกนิกรชาวไทยไว้อย่างน่าประทับใจ
นับเป็นหนังสือที่จะสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้อ่าน
ปลุกขวัญและกำลังใจในการหมั่นสร้างคุณงามความดีทั้งแก่ตนเอง ครอบครัว
และประเทศชาติตามรอยเบื้องพระยุคลบาทสืบไป
…………………………………..
เครดิต ณพาภรณ์ ปรีเสม
ขอบคุณค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น