สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ร่วมกับ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เผยแพร่เอกสารแผ่นพับอันตรายร้ายแรงของการสูบบุหรี่ในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 5 โรค อันได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหืดและโรคภูมิแพ้ และโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ป่วยและครอบครัวทราบ เพื่อเป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ป่วยเหล่านี้เลิกสูบบุหรี่ให้ได้นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ ผู้อำนวยการสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากรายงานของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข มีผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่เข้ารับบริการในสถานบริการสุขภาพ ปี พ.ศ. 2551 ดังนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน 388,551 คน โรคความดันโลหิตสูง 498,809 คน ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด 1,108,026 คน ผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต 124,532 คน และผู้ป่วยโรคหืด 113,530 คน รวมผู้ป่วยโรคเรื้อรังทั้ง 5 โรค 2,229,448 คน หากอัตราการสูบบุหรี่ของผู้ป่วยเหล่านี้เท่ากับของประชากรทั่วไปคือ ประมาณร้อยละ 20 จะมีผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่สูบบุหรี่ประมาณ 445,890 คน
นพ.ภานุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าพิจารณาจากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยง โรคไม่ติดต่อและการบาดเจ็บปี 2550 ซึ่งดำเนินการโดยสำนักโรคไม่ติดต่อเอง จะพบว่า ประเทศไทยมีประชากรอายุ 15 – 74 ปี ที่บุคลากรสาธารณสุขเคยบอกว่าเป็นโรคเรื้อรังโดยประมาณ ดังนี้ โรคเบาหวาน 1.8 ล้านคน โรคความดันโลหิตสูง 4.3 ล้านคน โรคหัวใจขาดเลือด 0.7 ล้านคน โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต 0.5 ล้านคน และโรคหืด 0.6 ล้านคน รวม 7.9 ล้านคน เพราะฉะนั้น จะมีผู้ป่วยโรคเรื้อรังเหล่านี้ที่สูบบุหรี่ประมาณ 1.6 ล้านคน
ซึ่งการสูบบุหรี่ในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วจะทำให้โรคทรุดลงเร็วขึ้น เกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงและเร็วขึ้น เช่น ไตวายเร็วขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน หัวใจวายเพิ่มขึ้น 3 เท่า ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น และทำให้ต้องใช้ยาในการรักษาเพิ่มมากขึ้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายทั้งผู้ป่วย ญาติ และ ทีมผู้ให้บริการผู้ป่วยในการชี้แจงให้ผู้ป่วยเข้าใจและพยายามช่วยให้ผู้ป่วยเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเหล่านี้ แต่ละคนอาการดีขึ้น รักษาง่ายขึ้นและเกิดโรคแทรกซ้อนช้าด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า แพทย์และทีมงานควรจะใช้โอกาสที่ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเหล่านี้มาติดตามรับการรักษา ย้ำเตือนและแนะนำวิธีการเลิกสูบบุหรี่ทุกครั้งที่ผู้ป่วยมารับการรักษา เพราะผู้ป่วยเหล่านี้ล้วนต้องการให้โรคของตัวเองดีขึ้น ซึ่งการเลิกสูบบุหรี่มีความสำคัญไม่น้อยกว่ายาอื่น ๆ ที่เขาใช้รักษาโรคประจำตัวของเขากรมควบคุมโรคจะได้แจกจ่ายแผ่นพับอันตรายของการสูบบุหรี่ในโรคเรื้อรัง 5 โรค ดังกล่าว แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อส่งต่อให้คลินิคโรคเรื้อรังเหล่านี้ที่มีอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งนี้แผ่นพับที่ผลิตขึ้นยังได้มีข้อแนะนำสำหรับการเลิกสูบบุหรี่พิมพ์อยู่ด้วย
ซึ่งการสูบบุหรี่ในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วจะทำให้โรคทรุดลงเร็วขึ้น เกิดโรคแทรกซ้อนรุนแรงและเร็วขึ้น เช่น ไตวายเร็วขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน หัวใจวายเพิ่มขึ้น 3 เท่า ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น และทำให้ต้องใช้ยาในการรักษาเพิ่มมากขึ้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายทั้งผู้ป่วย ญาติ และ ทีมผู้ให้บริการผู้ป่วยในการชี้แจงให้ผู้ป่วยเข้าใจและพยายามช่วยให้ผู้ป่วยเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเหล่านี้ แต่ละคนอาการดีขึ้น รักษาง่ายขึ้นและเกิดโรคแทรกซ้อนช้าด้าน ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า แพทย์และทีมงานควรจะใช้โอกาสที่ผู้ป่วยโรคเรื้อรังเหล่านี้มาติดตามรับการรักษา ย้ำเตือนและแนะนำวิธีการเลิกสูบบุหรี่ทุกครั้งที่ผู้ป่วยมารับการรักษา เพราะผู้ป่วยเหล่านี้ล้วนต้องการให้โรคของตัวเองดีขึ้น ซึ่งการเลิกสูบบุหรี่มีความสำคัญไม่น้อยกว่ายาอื่น ๆ ที่เขาใช้รักษาโรคประจำตัวของเขากรมควบคุมโรคจะได้แจกจ่ายแผ่นพับอันตรายของการสูบบุหรี่ในโรคเรื้อรัง 5 โรค ดังกล่าว แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อส่งต่อให้คลินิคโรคเรื้อรังเหล่านี้ที่มีอยู่ตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งนี้แผ่นพับที่ผลิตขึ้นยังได้มีข้อแนะนำสำหรับการเลิกสูบบุหรี่พิมพ์อยู่ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น